เมนู

ย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้เลว ย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ประณีต
ย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นส่วนธรรมดำและธรรมขาว. โดยสมัยอื่น
เขาฟังธรรมของพระอริยเจ้า กระทำในใจโดยแยบคาย ปฏิบัติธรรมสมควรแก่
ธรรม ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้กุศล ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้อกุศล
ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้มีโทษ ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ไม่มีโทษ
ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ควรเสพ ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ไม่ควร
เสพ ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้เลว ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ประณีต
ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นส่วนธรรมดำและธรรมขาว. เมื่อเขารู้อย่างนี้
เห็นอย่างนี้ อวิชชาย่อมละได้ วิชชาย่อมเกิดขึ้น. ความสุข โสมนัสอันยิ่งกว่า
สุข ย่อมเกิดขึ้นแก่เขา เพราะปราศจากอวิชา เพราะวิชาเกิดขึ้น. ความ
ปราโมทย์เกิดต่อจากความบันเทิงแม้ฉันใด ความสุข โสมนัสอันยิ่งกว่าสุขย่อม
เกิดขึ้น เพราะปราศจากอวิชา เพราะวิชาเกิดขึ้นฉันนั้นเหมือนกัน. การ
บรรลุโอกาสนี้เป็นประการที่ 3 ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้เห็น เป็นพระ
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นตรัสรู้แล้ว เพื่อบรรลุถึงความสุข. การ
บรรลุโอกาส 3 ประการเหล่านี้แล อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้เห็น เป็น
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นตรัสรู้แล้ว เพื่อบรรลุถึงความสุข.

ว่าด้วยสติปัฏฐาน



[205] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สนังกุมารพรหมได้กล่าวเนื้อความนี้
แล้ว เรียกเทวดาชั้นดาวดึงส์มากล่าวว่า เทวดาชั้นดาวดึงส์จะสำคัญความข้อ
นั้นเป็นไฉน สติปัฏฐาน 4 นี้ อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้เห็น เป็นอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติดีแล้ว เพื่อบรรลุกุศล สติปัฏฐาน
4 มีอะไรบ้าง ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พิจารณากายในกาย เป็นภายใน มี

ความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกอยู่ เมื่อ
ภิกษุพิจารณากายในกาย เป็นภายในอยู่ ย่อมตั้งจิตไว้โดยชอบ ผ่องใสโดย
ชอบในกายานุปัสสนานั้น. เธอตั้งจิตไว้โดยชอบในกายานุปัสสนานั้นแล้ว ยัง
ญาณทัสสนะให้เกิดในกายอื่นในภายนอก. ภิกษุพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา
เป็นภายในมีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกอยู่
เมื่อภิกษุพิจารณาเวทนาในเวทนาเป็นภายในอยู่ ย่อมตั้งจิตไว้โดยชอบ ผ่องใส
โดยชอบในเวทนานุปัสสนานั้น เธอตั้งจิตไว้โดยชอบ ผ่องใสโดยชอบในเวทนา
นุปัสสนานั้นแล้ว ยังญาณทัสสนะให้เกิดในเวทนาอื่นภายนอก ภิกษุพิจารณาจิต
ในจิตเป็นภายใน มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัส
ในโลกอยู่ เมื่อภิกษุพิจารณาจิตในจิตเป็นภายในอยู่ ย่อมตั้งจิตไว้โดยชอบ ย่อม
ผ่องใสโดยชอบในจิตตานุปัสสนานั้น. เธอตั้งจิตไว้โดยชอบ ผ่องใสโดยชอบ
ในจิตตานุปัสสนานั้นแล้ว ยังญาณทัสสนะให้เกิดในจิตอื่นในภายนอก. ภิกษุ
พิจารณาธรรมในธรรมเป็นภายใน มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด
อภิชฌาและโทมนัสในโลกอยู่ เมื่อภิกษุพิจารณาธรรมในธรรมเป็นภายในอยู่
ย่อมตั้งจิตไว้โดยชอบ ผ่องใสโดยชอบในธัมมานุปัสสนานั้น. เธอตั้งจิตไว้โดย
ชอบ ผ่องใสโดยชอบในธัมมานุปัสสนานั้นแล้ว ยังญาณทัสสนะให้เกิดใน
ธรรมอื่นในภายนอก. สติปัฏฐาน 4 อย่างนี้แล อันพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้
ผู้เห็น เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นทรงบัญญัติแล้ว เพื่อบรรลุคุณ

ว่าด้วยบริขารแห่งสมาธิ



[206] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สนังกุมารพรหม ได้กล่าวเนื้อความ
นี้แล้ว ได้เรียกเทวดาชั้นดาวดึงส์มากล่าวว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย เทวดา
ชั้วดาวดึงส์จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บริขารแห่งสมาธิ 7 ประการนี้ อัน